Morphling

Morphling



สกิล

Waveform (W)
พุ่งตัวเป็นคลื่นเข้าโจมตีเป้าหมาย สร้างความเสียหายให้แก่ศัตรูที่อยู่ในระยะทั้งหมด
Lv.1 - พุ่งตัวเข้าโจมตีพื้นที่เป้าหมาย สร้างความเสียหาย 100
Lv.2 - พุ่งตัวเข้าโจมตีพื้นที่เป้าหมาย สร้างความเสียหาย 175
Lv.3 - พุ่งตัวเข้าโจมตีพื้นที่เป้าหมาย สร้างความเสียหาย 250
Lv.4 - พุ่งตัวเข้าโจมตีพื้นที่เป้าหมาย สร้างความเสียหาย 325
Mana Cost : 140/155/160/165 Cooldown : 11 วินาที

Adaptive Strike (E)
ข้าวกระสุนน้ำเวทย์มนตร์เข้าโจมตีศัตรู ค่าความเสียหายและผลการสตั้นเป้าหมายจากผลของสกิลขึ้นอยู่กับค่าต่างๆระหว่าค่า Agi และค่า Str ของตัวเรา
Lv.1 - สร้างความเสียหาย 20 + 0.25 x -0.5 x Agility ของตัวเราและสตั้นเป้าหมาย 0.25-0.75 วินาที และทำให้เป้าหมายกระเด็นไปเล็กน้อย
Lv.2 - สร้างความเสียหาย 40 + 0.25 x -1.0 x Agility ของตัวเราและสตั้นเป้าหมาย 0.25-1.50 วินาที และทำให้เป้าหมายกระเด็นไปเล็กน้อย
Lv.3 - สร้างความเสียหาย 60 + 0.25 x -1.5 x Agility ของตัวเราและสตั้นเป้าหมาย 0.25-2.25 วินาที และทำให้เป้าหมายกระเด็นไปเล็กน้อย
Lv.4 - สร้างความเสียหาย 80 + 0.25 x -2.0 x Agility ของตัวเราและสตั้นเป้าหมาย 0.25-3.00 วินาที และทำให้เป้าหมายกระเด็นไปเล็กน้อย
*ลักษณะการโจมตีเป็นเวทย์มนตร์
ระยะการโจมตีของสกิล : 600/700/800/900 ถ้าตัวฮีโร่มีค่า Agility มากกว่า Strenght 50% ค่าความเสียหายของสกิลจะอยู่ในจุดสูงสุดของสกิลและระยะเวลาในการติดสตั้นจะอยู่ในจุดต่ำสุดของสกิล ถ้าตัวฮีโร่มีค่า Strength มากกว่าค่า Agility 50% ค่าความเสียหายของสกิลจะอยู่ในจุดต่ำสุดของสกิลและระยะเวลาในการติดสตั้นจะอยู่ในจุดสูงสุดของสกิล
Mana Cost : 100 Cooldown : 10 วินาที

Morph (R)
ทำการสลับเปลี่ยนค่าสเตตัสของตัวเองระหว่างค่า Str และ Agi ถ้าเลือกเพิ่มอย่างใดอย่างหนึ่งอีกค่าหนึ่งจะถูกลดตามสัดส่วน
Lv.1 - สลับ 2 หน่วยต่อวินาที
Lv.2 - สลับ 4 หน่วยต่อวินาที
Lv.3 - สลับ 6 หน่วยต่อวินาที
Lv.4 - สลับ 8 หน่วยต่อวินาที
Mana Cost : 20 ต่อวินาที Cooldown : 1/1/0.75/0.5 วินาที
*สามารถคลิกขวาที่สกิล เพื่อใช้สกิลอย่างต่อเนื่อง

Replicate (R)
สร้างร่างจำลองออกมาจากยูนิตเป้าหมาย โดยพลังโจมตีของร่างจำลองจะลดลลงเหลือแค่ 50%  จากร่างต้นแบบ และสามารถสลับตำแหน่งระหว่างตัว Mopphling กับร่างจำลองได้
Lv.1 - นาน 30 วินาที ระยะร่ายสกิล 700 Rang
Lv.2 - นาน 45 วินาที ระยะร่ายสกิล 1100 Rang
Lv.3 - นาน 60 วินาที ระยะร่ายสกิล 1500 Rang
Mana Cost : 25 Cooldown : 80 วินาที


หน้าที่ของฮีโร่
    หน้าที่ของ Morphling คือฟาร์มให้เร็วที่สุดถึงตัวเราจะมีสกิลที่รุนแรงอย่างสกิล Waveform ที่ช่วยให้เราพุ่งเข้าหาเป้าหมายในจังหวะปะทะพร้อมทำความเสียหายให้ศัตรูทุกัวในเส้นทางสกิล แต่ถึงอย่างนั้นอาจจะดูมีผลรุนแรงในช่วงแรกของเกม แต่ช่วงกลางเกมลำพังสกิลนี้สกิลเดียวไม่อาจจะจัดการกับคู่ต่อสู้ได้อย่างเด็ดขาดถึงขนาดจะส่งคู่ต่อสู้กลับน้ำพุ และตัวเราเองก็ไม่มีสกิลพอที่จะหยุดคู่ต่อสุ้นานๆ จึ
จำเป็นต้องออกไอเท็มเสริมดาเมจให้เร็วเข้าไว้ครับ

การออกไอเท็มในกรณีที่โดนกด
     ปัญหาของ Morphling คือระยะโจมตีที่ค่อนข้างใกล้ แต่โชคดีที่เราพอจะมีสกิล Waveform ซึ่งสามารถเอาไว้ใช้หนีได้แต่ในกรณีที่เราโดนกดหรือคิดว่าจะโดนกด ขอแนะนำให้ออกไอเท้ม Ring of Basilius ก่อนเลยครับ เพราะด้วยสกิลที่รุนแรงเราสามารถใช้สกิลใส่คู่ต่อสู้เพื่อทำดาเมจได้ในบางจังหวะ ส่วนไอเท้มอีกอย่างที่ควรมีหากโดนกดคือ Magic Wand ครับ ช่วยได้มากในจังหวะใกล้ตาย

การออกไอเท็มในกรณีที่ไม่โดนกด
     ไอเท็มชิ้นแรกที่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับ Morphling คือ Preseverance เพื่อให้มีเลือดและ Mana ในการฟาร์มอย่างต่อเนื้อง และหากมีเงินมากพออาจจะรวมไอเท็มเป็น Linken's Sphere ไอเท็มชิ้นที่สองควรออก Yasha เพื่อที่จะรวมไอเท็มเป็น Manta Style จากนั้นสามารถเสริมดาเมจได้ด้วย Monkey King Bar หรือ The Butterfly

การอัพสกิล
     แนวทางการอัพสกิลจะเน้นอัพสกิล Morph ในช่วงเวลาที่เราใกล้ตาย หากเราสลับค่า Agi เป็นค่า Str จะช่วยให้พลังชีวิตของเราเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าถึงแม้จะโดนรุมโดนโจมตีแค่ไหนก็ยากที่จะตายครับ



เทคนิคการเล่น
     Morphling นอกจากจะมีสกิล Waveform ที่รุนแรงพอที่จะใ้กับครีปเพื่อฟาร์ม หรือใช้กับฮีโร่เพื่อทำด่เมจแล้ว สิ่งที่ทำให้ Morphling เป็นฮีโร่ที่ฆ่ายากมากๆคือสกิล Morph ต้องบอกเลยว่าสกิลนี้ดีมากๆ เพราะในจังหวะที่เราใกล้ตายหากเราเปลี่ยนค่า Agi เป็นค่า Str เลือดเราจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตราบที่ตัวเรายังมี Mana อยู่ เพราะฉะนั้น Mana คือสิ่งสำคัญมากๆสำหรับฮีโร่ตัวนี้ครับ


TANKER : เมื่อต้องชน!!
     ถือว่าเป็นฮีโร่ตัวหนึ่งที่หากคิดจะแท็งค์ให้กับทีม ก็ถือว่าตายยกตายเย็นเหลือเกิน ด้วยสกิล Morph ที่สามารถเปลี่ยนค่า Agi ของเราเป็นค่า Str ทำให้พลังชีวิตเราเพิ่มสูงขึ้นมากๆ ในเวลาไม่นาน ยิ่งในจังหวะปะทะกันของทีมแล้วถือว่าหากศัตรูคิดจะโจมตีเราเพราะเป็นว่าเป็นฮีโร่ Agi ก็ถือว่าคิดผิดมากเลยครับ

DAMAGE : เมื่อต้องเฉียด!!
     สามารถฟาร์มได้เนียนๆด้วยสกิล Waveform ซึ่งใช้ได้ทั้งการฟาร์มหรือหลบหนีเวลาโดน Gank เพราะฉะนั้นการออกไอเท็มของฮีโร่ตัวนี้จึงไม่ใช้เรื่องยาก การที่จะเป็นตัวดาเมจของทีมจึงดูเหมาะสมมากๆ อีกทั้งเมื่อเรามีไอเท็มดาเมจโหดๆ สกิลนี้ยังสามารถส่งให้เราถึงจุดปะทะได้อย่างรวดเร็ว

SUPPORT : เมื่อต้องช่วย!!
     สำหรับฮีโร่ตัวนี้ก็มีสกิลช่วยเพื่อนเช่นกัน อย่างเช่นสกิล Adaptive Strike ซึ่งจะทำให้เป้าหมายที่โดนสกิลนี้มีผลติดมินิสตั้นและยังถูกผลักไปยังฝั่งตรงข้ามเล็กน้อย แต่ในจังหวะที่เพื่อนเราโดนไล่ล่าแล้ว แค่นั้นก็เพียงพอให้เพื่อนรอดได้แล้วครับ


Omiknight

Omiknight




สกิล

Purification (R)
ใช้แสงศักดิ์สิทธิ์ฟื้น HP ให้กับพันธมิตรเป้าหมาย และทำความเสียหายต่อศัตรูโดยรอบไปพร้อมๆกัน
Lv.1 - ฟื้น HP และทำดาเมจ 90 แต้ม
Lv.2 - ฟื้น HP และทำดาเมจ 180 แต้ม
Lv.3 - ฟื้น HP และทำดาเมจ 270 แต้ม
Lv.4 - ฟื้น HP และทำดาเมจ 360 แต้ม
Mana Cost : 100/120/140/160 Cooldown : 12 วินาที

Repel (E)
สร้างเกราะจากพลังศักดิ์สิทธิ์ที่จะป้องกันเวทย์มนตร์ทุกชนิดให้กับเป้าหมาย
Lv.1 - เกราะมีผลนาน 6 วินาที
Lv.2 - เกราะมีผลนาน 8 วินาที
Lv.3 - เกราะมีผลนาน 10 วินาที
Lv.4 - เกราะมีผลนาน 12 วินาที
Mana Cost : 50 Cooldown : 14 วินาที

Degen Aura (Passive)
ลดความเร็วในการเคลื่อนที่ และความเร็วในการโจมตีของศัตรูที่อยู่รอบๆในระยะ 300
Lv.1 - ลดความเร็ว 7%
Lv.2 - ลดความเร็ว 14%
Lv.3 - ลดความเร็ว 21%
Lv.4 - ลดความเร็ว 28%

Guardian Angel (G)
ทำให้พันธมิตรโดยรอบอยู่ในสภาพกึ่งอมตะ ไม่ได้รับผลจากดาเมจทสงกายภาพ และเพิ่มอัตราการฟื้น HP มากขึ้นด้วย
Lv.1 - อยู่ในสภาพกึ่งอมตะ มีผลนาน 5 วินาที
Lv.2 - อยู่ในสภาพกึ่งอมตะ มีผลนาน 6 วินาที
Lv.3 - อยู่ในสภาพกึ่งอมตะ มีผลนาน 7 วินาที
Mana Cost : 125/175/250 Cooldown :150 วินาที


หน้าที่ของฮีโร่
     หน้าที่ของมันทำได้สองอย่างคือ การเป็นตัวสนับสนุนให้กับทีมจากสกิลที่มีไม่ว่าจะเป็นสกิลที่สามารถฟื้นฟูค่าพลังชีวิตได้ สกิลการป้องกันการโดนใช้สกิลใส่ และที่เป็นไม่ตายกับสกิลที่ทำให้เป็นกึ่งอมตะทั้งทีมนั่นเอง


การออกไอเท็มในกรณีที่โดนกด
     ถ้าโดนกดมากๆ แนะนำให้เลือกออกไอเท็มที่เพิ่มด้านการสนับสนุนและเล่นร่วมไปกับเราจะดีกว่าการออกไอเท็มเน้นโจมตีหรือลุยเดี่ยว อาจจะเริ่มต้นจากไอเท็ม Mekansm ก่อนก็ได้เพราะอย่างน้อยการฮีลซ้ำอีกครั้งก็พอจะช่วยให้ทีมเล่นได้ง่านขึ้นเหมือนกัน และควรเลือกออกไอเท็ม Boots of Travel ออกมาใช้เพื่มให้การเคลื่อนที่ในจังหวะไล่ตามง่ายมากขึ้น ยิ่งในเกมที่โดนกดดันมากๆ การออกไอเท็มช่วยเพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ขึ่นมาจะช่วยได้มากทีเดียว

การออกไอเท็มในกรณีที่ไม่โดนกด 
     มีไอเท็มหลายชิ้นที่สามารถใช้งานบนฮีโร่ตัวนี้ได้ดี เพราะมันสามารถเป็นได้ทั้งตัวโจมตีและตัวสนับสนุน ดังนั้นจึงสามารถเลือกออกไอเท็มได้ทั้งเน้นโจมตีและสนับสนุน แต่ถ้าจะให้ดีควรจะออกไอเท็มไว้ทั้งสองประเภท แต่ชิ้นที่น่าจะออกมาใช้งานแน่ๆคือ Assault Cuirass เพราะได้ทั้งพลังป้องกันและใช้ลดความสามารถของศัตรูไปพร้อมกัน นอกเหนือจากนี้การเลือกไอเท็มอย่าง Shiva's Guard ก็น่าสนใจเหมือนกันเพราะสกิลที่ได้มานั้นจะช่วยเสริมในการฟาร์ามและการโจมตีเป้าหมานลดความเร็วในการเคลื่อนที่ด้วย เหมาะมากหากจะเล่นเป็นตัวสนับสนุน ส่วนถ้าจะเล่นเป็นตัวโจมตีไอเท็ม Radiance ดูจะเหมาะสมมากจากที่มันใช้สร้างความเสียหายแบบกลุ่มเหมาะกับจังหวะไล่ตามมาก หลังจากนี้อาจจะออกเป็นพวก Heart of Tarraque ขึ้นมาเสริมหรือ Guinsoo's Scythe of Vyse ก็ได้

การอัพสกิล
    การอัพสกิลสายนี้จะเน้นการเล่นแบบ Ganker เพื่อให้สามารถลุยพร้อมกับทีมได้ในช่วงต้นๆเกม รูปแบบการอัพสกิลจึงอยู่ในระดับกลางๆ และเลือกสกิลที่ต้องใช้งานมากขึ้นมาก่อน และลำดับการอัพสกิลจึงออกมาเป็นแบบนี้



เทคนิคการเล่น
     ในการเล่นให้พยายามทำหน้าที่เป็นตัวสนับสนุนหรือตัวตามติดคู่หูเอาไว้ ถ้าไม่จำเป็นเราไม่ควรออกไปด้านหน้าหรืออยู่ในระยะที่อาจจตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีของศัตรูได้เพราะถ้าโดนสกิลหรือถูกโจมตีขึ้นมาอาจจะทำให้จังหวะการใช้สกิลสนับสนุนหรือคอมโบของเราผิดพลาดได้ และนั่นมีโอกาสส่งผลต่อทีมได้เลยทีเดียว ดังนั้นไม่ควรจะเข้าไปลุยในจังหวะชนครั้งแรก แต่หลังจากคอมโบหรือสกิลสนับสนุนเสร็จแล้วจึงค่อยออกลุยตามกลุ่มนำหรือตัวชนของทีมเข้าไปอีกแรง สกิล Repel นั้นสำคัญในการเล่นมาก เพราะมันสามารถป้องกันสกิลได้ จะมีผลกับพวกฮีโร่ที่ต้องเข้าลุยหรือพวกที่ต้องยืนร่ายสกิลต่างๆ สกิลนี้จะช่วยให้มีโอกาสร่ายสกิลได้สำเร็จก่อนจะโดนหยุดมากขึ้น และที่สำคัญมากที่สุดคือสกิลไม้ตาย Guardian Angel สกิลนี้จะทำให้ผู้เล่นทนต่อการโจมตีทางกายภาพและฟื้นฟูค่าพลังขึ้นมาอย่างมาก ดังนั้นการกะจังหวะใช้สกิลนี้เป็นอะไรที่สำคัญต่อทีมมาก และอาจเป็นสกิลชี้ผลแพ้ชนะเลยทีเดียว



TANKER : เมื่อต้องชน!!
     เป็นฮีโร่สาย Str ที่ตายยากมากๆด้วยสกิลที่จะเปิ่มความถึกของเราให้เป็นอย่างมากแต่สกิลของเราจะมีประโยชน์กับเพื่อนร่วมทีมได้มากกว่าที่จะใช้สกิลกับตัวเราเอง อย่างเช่นสกิล Purification ซึ่งจะสามารถฟื้นฟูพลังชีวิตของเป้าหมายทันที ซึ่งสกิลนี้จะช่วยให้เรายืนชนได้นานมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถใช้กับเพื่อนร่วมทีมของเราได้อีกด้วย

DAMAGE : เมื่อต้องเฉียด!!
     สำหรับฮีโร่ตัวนี้เราสามรถเล่นในรูปแบบฮีโร่สายดาเมจได้ดีมากเช่นกัน ด้วยสกิล Degen Aura ซึ่งเป็นสกิลที่มีผลออร่ารอบๆตัวของเราซึ่งทำให้ศัตรูทุกตัวที่อยู่ในระยะสกิลเคลื่อนที่ช้าลง ซึ่งหากตัวเรามีดาเมจมากพอแล้ว การที่ศัตรูจะยืนสู้กับเราคงจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ

SUPPORT : เมื่อต้องช่วย!!
     ถ้าพูดถึงเรื่องซัพพอร์ททีม ฮีโร่ตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดตัวซัพพอร์ทได้เลยทีเดียว ทั้งสกิล Repel ซึ่งจะทำหใ้เป้าหมายของสกิลนี้ไม่โดนโจมตีด้วยเวทมนตร์ใดๆทั้งสิ้น ไหนจะสกิลไม้ตายของเราอย่าง Guardian Angel ซึ่งจะทำให้เราและเพื่อรร่วมทีมถูกปกป้องจากการโจมตีทางกายภาพชั่วระยะเวลาหนึ่ง


The Keeper of the light

The Keeper of the light





สกิล

Illuinate (T)
ชาร์จบอลพลังงานเพิ่มโจมตีศัตรู พลังงานจะสะสมดาเมจ 100 แต้มต่อวินาทีเมื่อครบกำหนดจะปล่อยพลังงานไปโจมตีศัตรูฝ่ายตรงข้ามทั้งหมดที่อยู่ในแถวยิง ยิ่งสกิลเลเวลสูงก็จะยิ่งชาร์จได้นานขึ้น
Lv.1 - ชาร์จได้นานสูงสุด 2 วินาที
Lv.2 - ชาร์จได้นานสูงสุด 3 วินาที
Lv.3 - ชาร์จได้นานสูงสุด 4 วินาที
Lv.4 - ชาร์จได้นานสูงสุด 5 วินาที
Mana Cost : 150 Cooldown : 10 วินาที

Mana Leak (E)
ทำให้เป้าหมายสูญเสีย Mana เมื่อทำการเคลื่อนที่ ยิ่งเคลื่อนที่ไปไกลเท่าไหร่ก็จะเสียมานามากเท่านั้น หากเป้าหมายสูญเสีย Mana จนหมดในภาวะนี้จะถูกสตั้นไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง
Lv.1 - มีผลนาน 4 วินาที เสีย Mana 3.5% ต่อการวิ่งในระยะ 100 หาก Mana หากหมดจะสตั้น 1.25 วินาที ร่ายสกิล 550 Rang
Lv.2 - มีผลนาน 5 วินาที เสีย Mana 4% ต่อการวิ่งในระยะ 100 หาก Mana หากหมดจะสตั้น 1.5 วินาที ร่ายสกิล 700 Rang
Lv.3 - มีผลนาน 6 วินาที เสีย Mana 4.5% ต่อการวิ่งในระยะ 100 หาก Mana หากหมดจะสตั้น 1.75 วินาที ร่ายสกิล 1000 Rang
Lv.4 - มีผลนาน 7 วินาที เสีย Mana 5% ต่อการวิ่งในระยะ 100 หาก Mana หากหมดจะสตั้น 2 วินาที ร่ายสกิล 550 Rang
Mana Cost 75 Cooldown : 18 วินาที

Chakra Magic (C)
ฟื้นฟูมานาจำนวนหนึ่งให้กับเป้าหมายที่กำหนด
Lv.1 - ฟื้นฟู Mana 75 หน่วย
Lv.2 - ฟื้นฟู Mana 150 หน่วย
Lv.3 - ฟื้นฟู Mana 225 หน่วย
Lv.4 - ฟื้นฟู Mana 300 หน่วย
Mana Cost : 40/55/70/85 Cooldown : 19/18/17/16

Spirit Form (F)
แปลงร่างเป็น Ezalor ให้เป็นร่างแสงเพิ่มความสามารถในการใช้เวทย์ให้สูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง ในร่างนี้สามารถร่าย Illuminate ได้โดยไม่มีการ Channeling และสามารถวาร์ปฮีโร่พันธมิตรหนึ่งคนมาหาได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังสามารถร่าย Brillant Light ทำให้ฝ่ายตรงข้ามทั้งกลุ่มตาพร่า มีโอกาสโจมตีผิดพลาด 75% ชั่วขณะ
Mana Cost : 100 Cooldown : 80/70/60 วินาที
*สกิลพิเศษที่ได้รับจากการใช้สกิล Spirit Form 
Blinding Light (B)
มีผลทำให้ศํตรูที่อยู่ในระยะสกิลตาบอด มีโอกาสโจมตีผิดพลาด 80% เป็นเวลา 3/4/5 วินาที
Mana Cost : 50 Cooldown : 20/16/12 วินาที
Recall
สามารถเลือกเทเลพอร์ตฮีโร่พันธมิตร 1 เป้าหมายมายังเราภายใน 5/4/3 วินาที หากเป้าหมายที่เลือกโดนโจมตีอยู่สกิลที่ใช้จะถือเป็นโมฆะ
Mana Cost : 100 Cooldown : 15 วินาที


หน้าที่ของฮีโร่
     หน้าที่ของ The keeper of the Light คือการกดดันในเลนครับ เรียกได้ว่าอยู่เลนไหนเลนนั้นเจ็บหนักแน่ๆ และทำหน้าที่อีกอย่างหนึ่งคือการดันเลนเพื่อทำลาย Tower ของคู่ต่อสู้ เป็นฮีโร่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความรุนแรงของสกิลจริงๆ แถมยังมีสกิลที่สามารถปั่นป่วนคู่ต่อสู้ได้อีกมากมาย ถือว่าเป็นอีกตัวหนึ่งที่น่าเล่นมากๆ และยังสามารถเล่นได้หลายแนวหลายรูปแบบอีกด้วย


การออกไอเท็มในกรณีที่โดนกด 
     หากโดนฝั่งตรงข้ามกดไอเท็มชิ้นแรกที่จะขอแนะนำคือ  Magic Wand เพราะช่วยได้มากๆ ยิ่งถ้าคู่ต่อสู้ในเลนเป็นประเภทใช้สกิลบ่อยๆแล้วล่ะก็จะดีมากๆเลยครับ หรือไม่ก็ออก Headdress of Rejuvenation เพื่อที่จะได้อยู่เลนได้นานขึ้น

การออกไอเท็มในกรณีที่ไม่โดนกด 
     ไอเท็มที่แนะนำสำหรับฮีโร่ตัวนี้อันดับแรกคือ Mekansm เพราะจะช่วยในการดันเลนทำลาย Tower ของเราได้อย่างต่อเนื่อง อันดับที่สองที่อยากแนะนำคือไอเท็มหนีตายอย่าง Force Staff  หลังจากนั้นออก Guinsools Scrythe of Vyse จะช่วยทีมได้เยอะทีเดียวหากเป็นไปได้รองเท้าที่ควรใช้ควรเป็น Boots of Travel ซึ่งจะดีมากๆในการไล่ดันเลนเพื่อนทำลาย Tower หลังจากนั้นออกไอเท้มที่ช่วยให้เลือดเยอะขึ้นอย่าง Linkenls Sphere หรือออกไอเท็มป่วนคู่ต่อสู้อย่าง Necronomicon ก็ไม่เลวนะครับ


การอัพสกิล
     เป็นรูปแบบที่คนส่วนใหญ่เล่นเพราะเน้นอัพสกิล Illuminate สลับกับ Chekra Magic เพือ่ใช้ความรุนแรงจากสกิลอย่างเต็มที่


เทคนิคการเล่น 
     THe Keeper of the Light เป็นฮีโร่ที่เกิดมาเพื่อกดดันศัตรูในเลนจริงๆ ด้วยสกิลที่สามารถยิงลำแสงอันรุนแรงอย่างสกิล Illuminate ที่สามารถโจมตีครีปพร้อมทั้งกดดันศัตรูในเลนไปด้วย และหากคอมโบกับสกิล Mana Leak ซึ่งจะทำให้เป้าหมายที่โดนสกิลสูญเสีย Mana  ตามระยะทางที่เดิน เรียกได้ว่าหากเดินก็เสีย Mana ไม่เดินก็เจ็บตัวเพราะลำแสงจากสกิล Illuminate 


TANKER : เมื่อต้องชน!!
     ฮีโร่ตัวนี้อย่าเอาไปชนหรือรับความเสียหายจะดีกว่า เพราะมันตัวบางและมีโอกาสตายได้ง่ายๆ แนวการเล่นส่วนใหญ่จะเน้นในด้านการโจมตีจากระยะไกลและกาเล่นแบบสนับสนุนทีมมากกว่า สกิลที่จะช่วยให้รอดจากการโจมตีหรือใช้เป็นสกิลเปิดสร้างจังหวะได้ก็คือสกิล Blinding Light ซึ่งจะทำให้เป้าหมายโจมตีพลาดเป้าและโดนกระแทกออกไป สกิลนี้จะได้หลังจากใช้สกิลไม้ตาย Spirit Form ส่วนสกิลนอกเหนือจากนี้จะออกมาในแนวสนับสนุนเสริมโจมตีมากกว่า

DAMAGE : เมื่อต้องเฉียด!!
     สกิลโจมตีอย่าง Illuminate เป็นไม้หลักในการเล่นฮีโร่ตัวนี้ ผลของมันคือการชาร์จก่อนจะยิงออกไปโจมตี ความเสียหายของสกิลค่อนข้างสูงมากจะใช้เพื่อโจมตีศัตรูหรือคอมโบกับทีมที่มีสกิลหยุดเข้ามาจับเป้าหมายเอาไว้ให้ยิงก็ได้เหมือนกัน และเมื่อใช้สกิล Spirit Form ะทำให้ไม่ต้องร่ายสกิลเวลายิง และยังสร้างร่างเงาออกมาร่ายโจมตีแทนอีกด้วย  สกิลอีกอันที่ถือเป็นไม้เด็ดในการฆ่าเหมือนกันก็คือ Mana Break ผลของมันคือทำให้เป้าหมายที่เคลือ่นที่อยู่เสียค่า MP ต่อเนื่องนั่นเอง

SUPPORT : เมื่อต้องช่วย!!
     ด้านการซัพพอร์ทมันสามารถเติม MP ให้ตัวเองและทีมได้เรื่อยๆ จากสกิล Chakra Magic ซึ่งถ้าเล่นดีๆก็อาจจะไม่จำเป็นต้องกลับฐานบ่อยๆเลยก็ได้ การทำงานของสกิลนี้ทำให้มันกดดันในเลนได้ดีมากและใช้ให้ทีมเพิ่มค่า MP เวลาลุยแบบกุ่มก็ได้เหมือนกันอีกสกิลหนึ่งคือสกิล Recall สกิลนี้เป็นการวาร์ปเอาฮีโร่ในทีมมาหาตัวเอง คล้ายกับสกิลหลบหนีเพื่อช่วยให้รอดตาย และเป็นสกิลเรียกตัวมาช่วยได้เหมือนกัน