Cooldown ตัวแปรสำคัญ กุญแจแห่งัยชนะ

ในการเล่นเกม Dota สิ่งสำคัญนอกจากเทคนิคระดับสูงแล้ว เรื่องการใช้งานหรือการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคพื้นฐานก็ถือว่าสำคัญมากเหมือนกัน เพราะมันจะเป็นตัวช่วยในการคิดหรือตัดสินใจในแนวการเล่นของคุณได้เลยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องที่หลายๆคนอาจจะมองข้ามไปแล้วอย่างค่า Cooldown ของสกิลต่างๆนั่นเองเรามาลองดูกันว่าความจริงแล้วค่านี้มีความสำคัญต่อการเล่นมากแค่ไหน



ความสำคัญของ Cooldown
     ค่า Cooldown คืือตัวที่บอกถึงระยะเวลาการใช้สกิลได้อีกครั้งหลังจากที่่ได้ใช้สกิลนั้นไปแล้วเกิดดีเลย์ขึ้นที่สกิล ผลของค่านี้ทำให้เราไม่สามารถใช้สกิลได้อย่างต่อเนื่อง เราจะเห็นได้บ่อยกับสกิลอัลติเมตทั้งหลายที่มักมีค่านี้นานเป็นนาที ความจริงแล้วนี่เป็นสิ่งที่เรามองข้ามไม่ได้เลย เพราะมันจะเป็นตัวเอาเข้ามาคิดในการเล่นจริงของเรามากทีเดียว

การใช้งาน Cooldown ของสกิลให้ดี จะส่งผลต่อการคอมโบและจังหวะใช้สกิลที่เหมาะสมด้วย

     ยกตัวอย่างเช่น สกิลที่มีความรุนแรงมากหรือมีผลเอฟเฟ็กต์สุดยอดแต่กลับมี Cooldown นานสุดๆ ทำให้การใช้งานแต่ละครั้งต้องระวังเพื่อให้ใช้สกิลได้ถูกต้อง แต่เมื่อเทียบกับบางสกิลที่มีผลต่างๆ ย่อยลงมาใช้งานได้ง่ายเพราะมี Cooldown น้อยกว่ามันจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่นสกิล Pit of Malice ที่ผลไม่ดีเทียบเท่าแต่ใช้งานได้บ่อยว่า ทำให้สกิลนี้ถูกมองว่าน่าเลือกมาใช้แทนอยู่เหมือนกันOvergrowth ที่มี Cooldown นานและสกิล

การคอมโบสกิลไม่จำเป็นต้องกดลงต่อกันเสมอไป แต่ประยุกต์ใช้ให้ถูกจังหวะดีกว่า

เทคนิคการไล่ฆ่าโดยเรียนรู้จาก Cooldown
     ค่า Cooldown นั้นจะมีผลในการเล่นเกมของเรามากอย่างในจังหวะการเข้าโจมตีนั้น สกิลสตั้นอย่างสกิล Strom Bolt มีค่า Cooldown นานถึง 15 วินาทีและมีระยะแสดงผลที่ทำให้เป้าหมายสตั้นถึง 2 วินาที ดังนั้นหมายความว่าหลังจากการใช้งานไปแล้ว เป้าหมายจะมีเวลาหนี 13 วินาทีจนกว่าที่จะใช้สกิลนี้ได้อีกครั้งดังนั้นช่องว่างของสกิลที่เกิดขึ้นนี้ทำให้การเล่นเราจำเป็นนต้องหาสกิลเข้ามาคอมโบเสริมเสริมเข้าไปเพื่อลดช่องว่างลง เช่นถ้าคอมโบกับสกิลFissure ที่มี Cooldown และผลทำให้สตั้นนานพอๆกัน (คิดเป็น 2 วินาทีเพื่อมห้เข้าใจง่าย) เทคนิคในการใช้งาน Cooldown คือเราอาจไม่จำเป็นต้องกดสตั้นแบบต่อเนื่องทันที แต่เว้นว่างซํกครู่ก่อนจะซ้ำ ผลที่เกิดจะคิดได้ดังนี้

ตัวอย่างที่ 1  Storm Bolt ติดสตั้น 2 วินาที มีเวลาหนี 13 วินาทีนั้นจึงใช้ได้อีกครั้ง
ตัวอย่างที่ 2  Storm Bolt ติดสตั้น 2 วินาทีต่อด้วย  Firssure ติดสตั้นราว 2 วินาทีศัตรูจะมีเวลาหนี 11 วินาทีกว่าจะใช้ได้อีกครั้ง
ตัวอย่างที่ 3  Storm Bolt ติดสตั้น 2 วินาที ปล่อยให้หนี 3 วินาที ต่อด้วย  Fissure ติดสตั้นราว 2 วินาที ศัตรูจะมีเวลาหนี 8 วินาที กว่าจะใช้ได้อีกครั้ง

     แนวคิดจากตัวอย่างนี้ จะเห็นว่าในตัวอย่างที่สองนั้น จะให้ผลช่วงว่างนานมากไปถึง 11 วินาที แต่เทคนิคที่จะเข้ามาลดโอกาสหนีตรงนี้ได้คือการใช้เทคนิคจากตัวอย่างที่ 3 โดยเราจะเห็นว่าถ้ายอมปล่อยให้ศัตรูดิ้นรนซักนิด แล้วค่อยคอมโบสกิล จะทำให้เหลือเวลาหนีในช่วงหลังน้อยกว่า และในเวลาที่เราเว้นว่างไว้นั้นถ้ากะระยะได้ดีๆ ไม่นานมากเกินไปก็เป็นเรื่องยากที่จะหลบหนีได้ และในกรณีนี้จะใช้งานได้ดีกับพวกที่ไม่มีสกิลหายตัวหรือ Blink เพราะฮีโร่พวกนี้จะหลบได้ไวมาก แต่ใช้งานได้ดีกับพวกที่มีสกิลหยุดสวนกลับเหมือนกัน เพราะช่วงเวเลาที่เราเว้นว่างจากตัวอย่างที่ 3 จะเป็นการบีบให้ศัตรูใช้สกิลออกมาก่อนจะโดนคอมโบซ้ำอีกครั้ง ซึ่งช่วยลดโอกาสหนีได้ดีมากทีเดียว

     สำหรับค่า Cooldown นั้นยังมีผลและความสำเร็จต่อการเล่นอีกมากมายแต่ครั้งนี้เราก็ขอฝากให้นำไปเป็นแนวคิดในการเล่นกันเท่านี้ก่อน ลองนำไปคิดวิเคราะห์ในสไตล์การเล่นของคุณดูครับ  ไม่แน่คุณอาจจะสร้างชุดคอมโบหรือจังหวะการลุยใหม่ๆขึ้นมาเองได้