Centaur Warchief

Centaur Warchief




สกิล

HoolStomp (F)
กระทืบพื้นทำให้ศัตรูได้รับความเสียหายและติดสตั้นไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง
Lv.1 - ทำดาเมจ 100 แต้ม และสตั้นเป็นเวาล 2 วินาที
Lv.2 - ทำดาเมจ 150 แต้ม และสตั้นเป็นเวลา 2.25 วินาที
Lv.3 - ทำดาเมจ 200 แต้ม และสตั้นเป็นเวลา 2.50 วินาที
Lv.4 - ทำดาเมจ 250 แต้ม และสตั้นเป็นเวลา 2.75 วินาที
Mana Cost : 85/100/115/130 Cooldown : 13 วินาที

Double Edge (D)
โจมตีเป้าหมายด้วยพลังทั้งหมดโดยการทุบหัว สร้างความเสียหายรุนแรงมหาศาล แต่ตัวเองก็จะได้รับบาดเจ็บเท่ากับศัตรูด้วย
Lv.1 - ทำดาเมจ 175 หน่วย เสีย HP 175 หน่วย
Lv.2 - ทำดาเมจ 250 หน่วย เสีย HP 250 หน่วย
Lv.3 - ทำดาเมจ 375 หน่วย เสีย HP 375 หน่วย
Lv.4 - ทำดาเมจ 400 หน่วย เสีย HP 400 หน่วย
Mana Cost : 0 Cooldown : 8 วินาที
Return
สะท้อนความเสียหายจำนวนหนึ่งกลับไปยังฝ่ายตรงข้ามที่เข้ามาโจมตี Centaur
Lv.1 - สะท้อนดาเมจกลับไป 16+26% ของค่า STR ตัวเอง
Lv.2 - สะท้อนดาเมจกลับไป 16+34% ของค่า STR ตัวเอง
Lv.3 - สะท้อนดาเมจกลับไป 16+42% ของค่า STR ตัวเอง
Lv.4 - สะท้อนดาเมจกลับไป 16+50% ของค่า STR ตัวเอง
Passve

Great Fortitude (Passive)
เพิ่มความแข็งแกร่งของ Centaur โดยการเพิ่มค่า STR จำนวนมาก
Lv.1 - เพิ่มโบนัส STR +12 หน่วย
Lv.2 - เพิ่มโบนัส STR +24 หน่วย
Lv.3 - เพิ่มโบนัส STR +36 soj;p


หน้าที่ของฮีโร่
หน้าที่ลักๆของ Centaur คือการทำหน้าที่เป็น Tanker แบบเต็มสตีม และคอยทำหน้าที่ป่วนฮีโร่จำพวก Carry ที่ตีแรงๆ แต่ HP น้อยเป็นหลัก ซึ่งหน้าที่ตั้งแต่ต้นเกมยันท้ายเกมของ Centaur จะไม่แตกต่างกันนัก นั่นคือเป็นตัว Tanker และคอยป่วนศัตรูเป็นหลักนั่นเอง


การออกไอเท็มในกรณีที่โดนกด
     สำหรับในกรณีที่โดนฝ่ายตรงข้ามกดจะไม่สามารถทำไอเท็ม Kelen's Dagger ในช่วงแรกได้ แนะนำว่าททำไอเท็มที่เสริม HP เยอะๆอย่าง Bracer และ Vanguard เอาไว้ก่อนเลยครับ  ทั้งนี้ก็เพื่อจะเสริมความอึดในการเข้าปะทะให้ดีขึ้น ยิ่งถ้าช่วงเกือบกลางเกมยังคงโดนกดอยู่ อาจจะออกไอเท็มอย่าง Black King Bar และ Blade Mail ไปเลยก็ได้ เพราะอย่างน้อยก็ยังช่วยให้สามารถเข้าปะทะและรับดาเมจจากศัตรูได้อย่างแน่นอน

การออกไอเท็มในกรณีที่ไม่โดนกด
     ไอเท็มที่เหมาะสำหรับช่วงกลางเกมไปถึงท้ายเกมนั้น หากการเก็บเลเวล และเงินเป็นไปอย่างราบรื่นก็ให้ทำไอเท็มเสริม HP และเสริมอึดไปเลยเช่น Heart of  Terrasque,  Shiva's Guard และ Khadager's Pippe of Insight หรือจะทำไอเท็มที่เสริมความโหดในเรื่องของการสร้างดาเมจอย่าง Radiance ก็น่าสนใจทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่ารูปเกมของทีมนั้นต้องการสิ่งใดมากกว่า

การอัพสกิล
     Centaur ฮีโร่สายพันอึดที่สามารถไปได้ในทุกๆเลน ซึ่งสายการอัพนี้จะเน้นไปที่การปั่นป่วนฝ่ายตรงข้ามด้วยสกิล Hoof Stomp และ Double Edge เป็นหลักอีกทั้งยังมีสกิล Retuen ไว้ใช้ป่วนฝั่งตรงข้าม และช่วยฟาร์มเก็ยบเงินในช่วงต้นๆเกมได้อีกด้วย


เทคนิคการเล่น 
     การเล่น Centaur ไม่ซับซ้อนมากเพราะจะมีอยู่สเต็ปเดียวนั่นคือใช้ไอเท็ม Kelen's Dagger เพื่อ Blink ไปยังกลุ่มเป้าหมาย (พยายามประชิดตัวศัตรูให้มากที่สุด) จากนั้นใช้สกิล Hoof Stomp เพื่อทำการสตั้นจากนั้นก็ทำการเขกฮีโร่ที่อยู่ใกล้ที่สุด เพื่อรอให้เพื่อนร่วมทีมมาช่วยรุมกินโต๊ะ ซึ่งเทคนิคนี้ใช้ได้ทั้งเกม Gank และจังหวะปะทะซึ่งๆหน้า จำไว้ว่าความสำคัญของฮีโร่ตัวนี้อยู่ที่ต้องเข้าปะทะเป็นฮีโร่ตัวแรกโดยอาศัยการสตั้นและสกิล Return เพื่อสะท้อนดาเมจกลับไปยังกลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด และด้วย HP ที่เยอะจะทำให้สามารถยืนแท็งค์ได้นาน เพื่อนร่วมทีมจะได้ Happy ครับ


TANKER : เมื่อต้องชน!!
     ก็ถือว่าเป็นฮีโร่ Tanker ชั้นยอนระดับแนวหน้าของฮีโร่ Str จริงๆ เพราะด้วยสกิล Great Fortitude จะช่วยเพิ่มค่า Str ให้กับ Centaurทุกๆครั้งที่อัพสกิลนั่นหมายถึงทั้งดาเมจและค่าพลังชีวิตของเราก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย เพราะหากเราออกไอเท็มเสริมความถึกแบบนี้ขึ้นแล้วล่ะก็ เราจะเป็นฮีโร่ที่ตายยากมากๆแน่นอนครับ

DAMAGE : เมื่อต้องเฉียด!!
     สำหรับ Centaur หากถึงเวลาที่ต้องรับหน้าที่เป็นตัวทำดาเมจให้กับทีมก็สามารถทำได้เพราะด้วยความแข็งแกร่งของฮีโร่ตัวนี้แล้วยังมีสกิล Double Edge ที่มีพลังโจมตีมากถึง 400 หน่วยบวกกับการออกไอเท็มต่อสู้ด้วยแล้ว Centaur ถือเป็นฮีโร่แถวหน้าที่แทบจะไม่ต้องกลัวอะไรเลย

SUPPORT : เมื่อต้องช่วย!!
     ในการปะทะกันในแต่ละครั้งของทีม สกิล Hoof Stomp ถือเป็นสกิลที่่วยเหลือทีมได้เป็นอย่างดี ทั้งในจังหวะปะทะ จังหวะไล่ฆ่า หรือแม้กระทั่งจังหวะที่ทีมเราเสียเปรียบและกำลังถอยหนี ด้วยสกิลที่สามารถหยุดศัตรูรอบๆตัวได้ทำให้เป็นสกิลที่มีประโยชน์กับทีมมากพอดูครับ